จักระที่ 7 ศูนย์กลางแห่งจิตวิญญาณ เป้าหมายสูงสุดในชีวิต การตรัสรู้ และความเป็นหนึ่งเดียว

จักระที่ 7 - Sahasrara (Crown Chakra)

ทุกสิ่งที่คุณต้องรู้เกี่ยวกับจักระศูนย์กลางแห่งจิตวิญญาณ เป้าหมายสูงสุดในชีวิต และการตรัสรู้

จักระที่ 7 ก็จะตื่นตัวไปด้วยเพราะตั้งแต่จักระที่ 1 ถึง 7 ติดต่อกัน ต่อมไพนีล เป็นรูปโคนตั้งอยู่กลางสมองส่วนหลัง เหนือต่อพิตูอิตารีเล็กน้อย ต่อมไพนีลเต็มไปด้วยเม็ดสีซึ่งใกล้เคียงกับที่พบในตามนุษย์ ในทางโยคะ เมื่อต่อมไพนีลถูกพัฒนาไปอย่างเต็มที่ด้วยการกระตุ้นที่เกิดจากสมาธิขั้นสูงที่จักระที่ 6-7 พลังงานการสั่นสะเทือนนี้เองที่กระตุ้นเพื่อเปิดดวงตาที่สาม เมื่อดวงตาที่สามถูกเปิด เราจะรับรู้ความรู้สึกถึงการรู้แจ้งการเปิดดวงตาที่สามนี้เอง ที่ถูกเรียกว่า ดวงตาแห่งจิตวิญญาณ (Eye of the Soul)

ความเจ็บป่วยทางจิตหลายประเภท ทำหน้าที่เป็นธงสีแดง ที่ชี้ไปที่ปัญหาการถูกปิดกั้นหรือการไม่ตรงแนว ข้อบ่งชี้เฉพาะที่เกี่ยวข้องกับปัญหาของจักระที่ 7 คือ

• รู้สึกหลงทางหรือติดขัด โดยเฉพาะอย่างยิ่งการสูญเสียสมาธิขณะนั่งสมาธิ
• คุณอาจพบว่าการเชื่อมต่อกับสิ่งต่างๆ รอบตัวคุณเป็นเรื่องยาก ท้ายที่สุดมันยังส่งผลต่อพลังงานของจักระที่ 1 ด้วยและคุณอาจรู้สึกมองโลกในแง่ร้ายและมีความนับถือตนเองต่ำ
• ความไม่แยแสและไม่สนใจทางจิตวิญญาณอาจเริ่มคืบคลานเข้ามาในชีวิตของคุณ
• ความรู้สึกเบื่อหน่าย ขาดความเอาใจใส่ และหงุดหงิดกับโลกีย์ อาจมาพร้อมกับการปิดกั้นพลังงานของจักระที่ 7
• คุณสูญเสียจุดมุ่งหมายของชีวิต การหลุดพ้นจากปัญญา และการขาดสมาธินั้นสัมพันธ์กับจักระที่ 7 ที่ถูกปิดกั้น
• สุดท้ายนี้ ถ้าคุณมีความปรารถนาที่ขัดขืนไม่ได้ที่จะแยกตัวออกจากวงสังคมของคุณโดยสิ้นเชิง รู้ว่าคุณต้องการการรักษาจักระที่ 7
• การอยู่ห่างจากความสัมพันธ์ ความคับข้องใจ ความขมขื่น และความเอะอะโวยวายของคุณมากขึ้นเรื่อยๆ ยังบอกคุณเกี่ยวกับความคลาดเคลื่อนของจักระที่ 7

แม้แต่ความไม่สมดุลเพียงเล็กน้อยในจักระที่ 7 สหัสสราระ (Sahasrara) สามารถนำไปสู่ความไม่สมดุลทางอารมณ์ที่เฉพาะเจาะจงเช่น:

• โรคซึมเศร้าขั้นแรก
• ความไม่แยแสและความเบื่อหน่าย
• ความสงสัย
• ความดื้อรั้น
• การเสียดสีมากเกินไปและบางครั้งก็แสวงหาความสุขในการล้อเลียนผู้อื่น
• สุดท้ายแต่สำคัญ คือ สติสัมปชัญญะและทัศนคติที่ไม่ยินดีต่อการเปลี่ยนแปลง รับมือไม่ได้กับการเปลี่ยนแปลง

เราสามารถพิจารณาความสมดุลของร่างกายและจิตใจที่เป็นผลจักระที่ 7 ได้อย่างแม่นยำ ว่าเป็นถนนสองทาง หมายความว่าในขณะที่คุณรู้สึกถูกรบกวนทางอารมณ์ด้วยการหยุดชะงักของพลังงานจักระ ความเจ็บป่วยทางร่างกายก็เข้ามาด้วย นั่นคือสิ่งที่จะเกิดขึ้นเมื่อพลังงานจักระที่ 7 ของคุณไม่สมดุล เนื่องจากจักระที่เจ็ด เป็นจิตวิญญาณ รวมถึงความไม่สมดุลทางกายภาพส่วนใหญ่ เช่น:

• ก่อนอื่น ความไวต่อแสง
• ประการที่สอง ความไวต่อเสียง
• นอกจากนี้ ความหงุดหงิดที่ควบคุมไม่ได้ในที่สาธารณะ
• สุดท้ายความรู้สึกไม่เข้ากับสิ่งรอบข้างหรือรู้สึกความแปลกแยก

แต่เนื่องจากจักระที่ 7 ไม่มีอาการทางกายภาพ การรบกวนทางจิตวิญญาณและอารมณ์ จึงมาพร้อมกับการปิดกั้นพลังงานของจักระ

การกระตุ้นให้จักระที่ 7 สหัสสราระ (Sahasrara) มีความสมดุล สามารถทำได้ด้วยตัวเองดังนี้

1. 1. การทำสมาธิด้วยการกำหนดจุดหรือเพ่งไปที่จุดกึ่งกลางกระหม่อม
2. 2. ใช้เครื่องประดับหรืออัญมณีสีม่วง เช่น อามิทิส
3. 3. การรับประทานผักและผลไม้ที่มีสีม่วง
4. 4. กลิ่นดอกบัว สามารถช่วยกระตุ้นการทำงานของจักระที่ 7 Sahasrara (Crown Chakra)
5. 5. ของใช้ที่มีสีม่วง เช่น เสื้อผ้า, สบู่

การเสริมสร้างร่างกายและจิตใจให้สงบ ขาตั้งที่รองรับคือราชาแห่งโยคะ พยายามอย่ารีบไปที่การตั้งท่า เว้นแต่ว่าคุณมีระดับความแข็งแกร่งและทักษะในการฝึกฝนในระดับหนึ่งมาแล้ว

นี่คือขั้นตอนทีละขั้นตอนที่ตรงไปตรงมาที่สุดสำหรับท่าเต็มรูปแบบสำหรับผู้เริ่มต้น:

• ก่อนอื่น ให้วางเสื่อโยคะหรือผ้าห่มหนาๆ ไว้ข้างผนังเพื่อกันกระแทก
• คว่ำแขนขาทั้งสี่ในลักษณะที่หันหน้าเข้าหากำแพง
• ประสานนิ้วของคุณเข้าเด้วยกัน ให้ข้อนิ้วของคุณห่างจากผนังครึ่งนิ้ว
• ตอนนี้เอามือยกแตะด้านกระหม่อม แล้วค่อยๆ วางลงบนพื้น
• หลังจากนั้น ยกเชิงกราน เหยียดขาให้ตรง แล้วยกเข่าขึ้นจากพื้น 
• นอกจากนี้ ให้เดินเข้าไปเพื่อปรับเท้าของคุณในลักษณะที่ไหล่ของคุณอยู่เหนือข้อศอกโดยตรง งอเข่าและค่อยๆ เหยียดขาซ้ายไปที่ผนัง งอเท้า ส้นเท้าชิดผนัง แล้วทำซ้ำเช่นเดียวกันกับขาขวา อยู่ในตำแหน่งเป็นเวลาห้าลมหายใจและเริ่มย้อนกลับท่าทาง
• ตอนนี้พักผ่อนในท่าของเด็กสักครู่แล้วแล้วเริ่มทำใหม่อีกครั้ง

1. ประโยชน์แรก: ช่วยลดความเครียดได้อย่างมากและทำให้ภาวะซึมเศร้าหายไป
2. ประโยชน์ที่สอง : ยังกระตุ้นต่อมไพเนียลและต่อมใต้สมอง
3. ประโยชน์ที่สาม: ท่านี้จะแก้ไขการอุดตัน และทำให้พลังงานจักระที่ 7 ไหลเวียนในบริเวณกระหม่อม
4. สุดท้าย: ท่านี้ยังช่วยบรรเทาอาการทางการแพทย์ เช่น โรคหอบหืด นอนไม่หลับ ภาวะมีบุตรยาก และไซนัสอักเสบ

ผู้เชี่ยวชาญยังแนะนำให้ยืดไหล่เป็น ท่าคันไถ(Halasana) และท่าดอกบัว (Padmasana) สำหรับการรักษาจักระ ปฏิบัติตามขั้นตอนโยคะที่แนะนำสำหรับการไหลเวียนของจักระที่ 7 ไม่ต้องกังวลกับการทำท่าเหล่านี้ไม่ถูกต้อง แม้แต่การนอนหงาย ก็ช่วยควบคุมการไหลเวียนของเลือดในบริเวณกระหม่อม ซึ่งจะทำให้จักระอยู่ในแนวเดียวกัน

วางหินคริสตัลบนจักระของคุณ

จักระถือเป็นเครื่องแปลงสัญญาณพลังงานในร่างกายที่มีพลังของคุณ แต่ละคนแสดงถึงส่วนที่แตกต่างกันของร่างกายและจิตวิญญาณของคุณ

เมื่อทำสมาธิ คุณสามารถวางคริสตัลบนจักระที่สอดคล้องกับความตั้งใจของคุณ การวางคริสตัลบนร่างกายของคุณช่วยให้คุณสมบัติการรักษาสามารถกระตุ้นพื้นที่เหล่านั้นและปรับสมดุลพลังงาน การทรงตัวของจักระนั้นใช้กันทั่วไปและมีประสิทธิภาพโดยการวางคริสตัลสีที่เกี่ยวข้องในขณะที่คุณทำสมาธิ

1. หินอเมทิสต์ (Amethyst) คือ หินที่มีสีม่วงอันน่าทึ่งและลวดลายที่วิจิตรตระการตา อเมทิสต์จึงเป็นหินจักระที่ 7 อย่างถูกต้อง อนุภาคที่เป็นประกายแวววาวในคริสตัลอเมทิสต์ แสดงถึงความงามอันไร้ขอบเขตของจักรวาล อเมทิสต์เชื่อมโยงกับการรับรู้ทางจิตวิญญาณ ความสงบภายใน และการรักษา และจิตสำนึกที่สูงขึ้น หินแห่งปัญญานี้ยังบรรเทาความเครียด นำความสมดุลมาสู่ชีวิตของคุณ และรักษาจิตใจ ร่างกาย และจิตวิญญาณ

2. หินเซเลไนต์ (Selenite) คือ "หินแห่งการรักษาและการป้องกัน" เซเลไนต์ เป็นอีกหนึ่งคริสตัล ที่สร้างแรงบันดาลใจให้กับจักระที่ 7 ที่มีเสน่ห์และสง่างาม เป็นคริสตัลที่สงบนิ่งซึ่งช่วยเสริมจักระทางจิตวิญญาณได้มากที่สุด คลื่นความถี่และแรงสั่นสะเทือนของแร่ธาตุที่น่าทึ่งของ เซเลไนต์ (Selenite) ช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน นอกจากนี้ ยังช่วยในเรื่องการต้านอนุมูลอิสระ

3. คริสตัลควอตซ์ (Crystal Quartz) หรือเคลียร์คริสตัล (Clear Crystal) เป็นหินตระกูลเดียวกับเพชร คนโบราณเรียกหินชนิดนี้ว่า “แก้วโป่งข่าม” ด้วยลักษณะจำเพาะของหินที่ใส ลักษณะผลึกหินตามธรรมชาติที่มีรูปทรงเป็นกอๆ แต่ละอันเป็นแท่งๆ คล้ายเขี้ยว หรือ ฟัน นี้เป็นลักษณะตามธรรมชาติที่ปราศจากการปรับแต่ง มีคุณสมบัติช่วยฟื้นฟูจิตใจ อารมณ์ ร่างกาย และที่สำคัญกว่านั้น คือ จิตวิญญาณ การเสริมความสามารถทางจิตของเรา เสริมพลังความจริงภายในและปัญญา ช่วยเพิ่มความกระจ่างในการทำสมาธิ เป็นคุณสมบัติที่แท้จริงของคริสตัลนี้

น้ำมันหอมระเหยอื่นๆ ที่สามารถใช้เพื่อปรับพลังงานของจักระที่ 7 ได้แก่:

• น้ำมันหอมระเหยกลิ่นไม้ซีดาร์
• น้ำมันหอมระเหยกลิ่นไม้จันทน์
• น้ำมันหอมระเหยกลิ่นกำยาน
• น้ำมันหอมระเหยกลิ่นมดยอบ (Myrrh)
• น้ำมันหอมระเหยกลิ่นเอเลมี (Elemi)
• น้ำมันหอมระเหยกลิ่นเฮลิไคลซัม ออยล์ (Helichrysum)
• น้ำมันหอมระเหยโกฐชฏามังสี (Spikenard Essential Oil)
• น้ำมันหอมระเหยกลิ่นดอกบัว (Lotus Essential Oil)

รับประทานอาหารเพื่อรักษาจักระ!

พลังของความเงียบสงบ (Power of Silence)

ผู้ที่ทำสมาธิเชื่อว่าความเงียบเป็นส่วนหนึ่งของจิตวิญญาณ เมื่อใจเริ่มสงบ จิตจะเข้าสู่ภวังค์และจมดิ่งลงสู่ความเงียบ สภาวะที่จิตมีสมาธิทำให้เกิดญาณ พระสัมมาสัมพุทธเจ้าใช้เวลาหลายปีในความเงียบสงบ ทำสมาธิ จนกระทั่งตรัสรู้ รวมทั้ง มหาตมะคานธี ผู้นำทางวิญญาณของอินเดีย ที่นำการต่อสู้กับจักรวรรดิอังกฤษจนประเทศอินเดียได้รับเอกราช ก็เช่นเดียวกัน ท่านงดพูดเมื่อจำเป็น เพราะเชื่อว่าความเงียบทำให้เกิดความสงบภายใน และมีความคิดอ่านที่ดีขึ้น

ความเงียบว่า คือ ประตูบานเเรกสู่ความสงบ สันติ ดังนั้น ความเงียบไม่ใช่เพียงภาวะไร้เสียงจากภายนอกเท่านั้น แต่ความหมายที่แท้จริงของความเงียบคือ การหยุดเสียงที่คอยรบกวนจิตใจของตนเองนั่นเอง

ความเงียบเป็นภาษาในตัวเอง แต่ก็เป็นโหมดการสื่อสารที่ไม่ง่ายในการปฏิบัติ ต้องอาศัยความเข้มแข็งภายในเพื่อช่วยให้เรารักษาความนิ่งสงบ ท่ามกลางสถานการณ์ความขัดแย้งรุนแรงและการใช้วาจาที่ไม่สุภาพ ในแง่มุมของการสื่อสาร ความเงียบเป็นหนึ่งในศิลปะของการสนทนาที่ยิ่งใหญ่ ผู้ที่สามารถใช้ความเงียบเพื่อสร้างความเข้าใจในสิ่งที่ต้องการก่อนจะสื่อให้คนอื่นได้ทราบ ถือว่าเข้าใจวิธีการใช้ความเงียบในการสื่อสารได้อย่างมีประสิทธิภาพการที่จะเป็นผู้ที่สามารถสื่อสารได้ดี ผู้นำจำเป็นต้องเริ่มต้นด้วยการเป็นผู้ฟังที่ดีก่อน เรียนรู้และฝึกฝนศิลปของความเงียบ ในการประชุมจะพบว่าผู้นำที่มีประสิทธิภาพในการสรุปประเด็นจะใช้เวลาส่วนใหญ่ถึง 70% ในการฟังแต่ใช้เวลาเพียงแค่ 30% ในการพูด ความเงียบยังช่วยให้เราเป็นคนที่สามารถเก็บความลับ กล่าวกันว่าคนยิ่งพูดมากขึ้นเท่าไหร่ ยิ่งมีความจริงในสิ่งที่พูดน้อยลงเท่านั้น

คุณอาจเคยได้ยินบางอย่าง เกี่ยวกับการกดจุดทางจิตวิทยา หรือการแตะจุด ถ้าไม่เคยได้ยิน ต่อไปนี้คือคำแนะนำสั้นๆ ที่จะช่วยให้คุณได้รับความรู้ที่ครอบคลุมเกี่ยวกับการกดจุด

การกดจุด เป็นขั้นตอนใหม่ ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากการรักษาแผนจีนแบบดั้งเดิม เป็นวิธีการรักษาแบบองค์รวม ที่มีผลลัพธ์ที่น่าประทับใจในประเด็นต่างๆ เช่น

• เป็นวิธีแก้ความกังวล
• รักษาความเครียด
• รักษาความหวาดกลัว
• รักษาอารมณ์แปรปรวน
• รักษาอาการปวดเรื้อรัง
• การควบคุมน้ำหนัก

ต่อไปนี้คือ เคล็ดลับและกลเม็ดจากผู้เชี่ยวชาญที่เรียบง่ายและชาญฉลาด ที่สามารถจัดตำแหน่งและปรับสมดุลจักระที่ 7 ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

• การสร้างภาพในหัว: หากคุณเก่งในการทำสมาธิ การนึกภาพเป็นสิ่งที่สามารถช่วยได้อย่างแน่นอน การแสดงภาพเป็นการทำสมาธิอีกระดับหนึ่งช่วยรักษาและจัดตำแหน่งจักระมงกุฎของคุณ
• กิจกรรมฝึกสติทางเลือก แทนการทำสมาธิ: สำหรับผู้ที่มีปัญหาในการนั่งสมาธิ ผู้เชี่ยวชาญแนะนำให้ดูจิตมากกว่าที่จะเป็นจิต นอกจากนี้ คุณสามารถใช้ที่อุดหูหรืออุปกรณ์ช่วยอื่นๆ เพื่อดื่มด่ำกับช่วงเวลาแห่งความเงียบอย่างแท้จริง ตอนนี้พยายามมุ่งเน้นไปที่จิตวิญญาณและการชี้นำจากภายใน
• ฝึกความนิ่งโดยเจตนา: ในทำนองเดียวกัน อีกแนวคิดหนึ่งคือ การฝึกความสงบนิ่ง กิจกรรมที่มีสตินี้จ ะช่วยให้คุณมีความสงบภายในและเพิ่มความสามารถในการมีสมาธิ