ความสุขคืออะไร หน้าตาเป็นยังไง? ความเป็นอยู่ที่ดีวัดได้อย่างไร?
อยากรู้ไหม ความสุขหน้าตาเป็นยังไง?

"ความสุข" คือสิ่งนามธรรมที่มนุษย์ทั่วโลกต้องการ แต่ก็ใช่ว่าหลักวิทยาศาสตร์แบบรูปธรรมจะอธิบายความสุขของมนุษย์ไม่ได้ เพราะเมื่อต้นปี 2018 มหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย วิทยาเขตเบิร์กลีย์ของสหรัฐฯ เปิดหลักสูตรออนไลน์ให้ผู้คนสามารถเข้าเรียนในคอร์สที่มีชื่อว่า “วิทยาศาสตร์แห่งความสุข (Science of Happiness)”
ศ. ซอนย่า ลูโบมีร์สกี แห่งมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย วิทยาเขตริเวอร์ไซด์ กล่าวว่า ระดับความสุขในชีวิตของคนเราถูกกำหนดมาล่วงหน้าแล้วด้วยพันธุกรรมถึง 50% ถูกกำหนดด้วยเหตุการณ์แวดล้อม 10% และความพยายามริเริ่มส่วนบุคคลอีกถึง 40%
ว่าด้วยเรื่อง ลักษณะหรือประเภทของความสุข

ในร่างกายของคนเรา ประกอบด้วยสารเคมีชนิดหนึ่งที่เรียกว่า ‘ฮอร์โมน’ ซึ่งเป็นสิ่งที่ร่างกายสร้างขึ้นมาเพื่อสื่อสารและทำหน้าที่ร่วมกันกับอวัยวะต่างๆ เพื่อให้ร่างกายของคนเราสามารถทำงานได้อย่างปกติ ไม่เว้นแม้แต่ ‘ความสุข’ ที่ฮอร์โมนก็ควบคุมด้วยเช่นกัน
ความสุขจากฮอร์โมนถูกแบ่งออกเป็น 3 ประเภท
1. เอ็นโดรฟิน (Endorphin)
เป็นฮอร์โมนที่หลั่งออกมาจากต่อมใต้สมองที่รู้จักกันในชื่อ ‘สารสุข’ เปรียบเสมือนมอร์ฟีนธรรมชาติที่ร่างกายหลั่งขึ้นมาก็ต่อเมื่อมนุษย์มีความสุข ความพึงพอใจ ผ่อนคลาย และหลั่งเพื่อกระตุ้นความรู้สึกในแง่บวก แต่เมื่ออยู่ในภาวะเครียดฮอร์โมนชนิดนี้ก็จะลดลง
2. โดพามีน (Dopamine)
เป็นฮอร์โมนที่เกี่ยวกับความพึงพอใจ รักใคร่ และยินดี เป็นสารที่หลั่งออกจากสมองกับเซลล์ประสาทในร่างกาย โดพามีนจะเกี่ยวเนื่องกับระบบประสาทหลายๆ ส่วน เช่น การทำงานของระบบประสาทสมอง การเคลื่อนไหว ความจำ และการเรียนรู้
ถ้าโดพามีนในร่างกายของเราต่ำเกินไป จะทำให้มีความรู้สึกหดหู่และซึมเศร้าได้ ซึ่งนับว่าเป็นโรคทางจิตเวชอย่างหนึ่ง ยาที่รักษาโรคทางจิตเวชในปัจจุบันจึงมีการพัฒนาเอาโดพามีนมาใช้ในการรักษา นอกจากนี้ยังพบว่าในกลุ่มผู้สูงอายุที่มีโดพามีนต่ำเกินไปทำให้เป็นโรคพาร์กินสันได้ เพราะฮอร์โมนที่ลดลงทำให้ระบบการทำงานของประสาทและกล้ามเนื้อไม่สัมพันธ์กัน ทำให้มีการสั่น และก้าวขาไม่ออก
3. เซโรโทนิน (Serotonin)
เป็นสารต้านความเครียดที่หลั่งจากสมองและหลั่งจากทางเดินอาหาร ซึ่งมีผลกับการทำงานของกล้ามเนื้อ อารมณ์ และพฤติกรรม และการนอนหลับ ถ้าระดับฮอร์โมนต่ำเกินไปจะทำให้เราหงุดหงิด นอนไม่ค่อยหลับ ไม่มีสมาธิ มีภาวะปวดศีรษะ เป็นไมเกรน หรืออาจนำไปสู่ภาวะซึมเศร้าได้
ความเป็นอยู่ที่ดีวัดได้อย่างไร?

เนื่องจากความเป็นอยู่ที่ดีเป็นเรื่องส่วนตัว จึงมักวัดจากการรายงานตนเอง การใช้มาตรการที่รายงานด้วยตนเองนั้นแตกต่างโดยพื้นฐานจากการใช้มาตรการตามวัตถุประสงค์ (เช่น รายได้ครัวเรือน ระดับการว่างงาน อาชญากรรมในละแวกใกล้เคียง) ที่มักใช้ในการประเมินความเป็นอยู่ที่ดี การใช้มาตรการทั้งวัตถุประสงค์และอัตนัย (ถ้ามี) เป็นสิ่งที่พึงปรารถนาสำหรับวัตถุประสงค์ของนโยบายสาธารณะ
มีเครื่องมือเกี่ยวกับความอยู่ดีมีสุขมากมายที่วัดความผาสุกแบบรายงานตนเองด้วยวิธีต่างๆ กัน ขึ้นอยู่กับว่าเครื่องมือหนึ่งวัดความเป็นอยู่ที่ดีเป็นผลทางคลินิก ผลด้านสุขภาพของประชากร สำหรับการศึกษาความคุ้มทุน หรือสำหรับอื่นๆ วัตถุประสงค์ ตัวอย่างเช่น การวัดความเป็นอยู่ที่ดีอาจเป็นแบบอิงไซโครเมทริกหรือแบบอรรถประโยชน์ก็ได้ การวัดตามไซโครเมทริกนั้นขึ้นอยู่กับความสัมพันธ์ระหว่างและความแข็งแกร่งระหว่างหลายรายการที่มีจุดประสงค์เพื่อวัดอย่างน้อยหนึ่งโดเมนของความเป็นอยู่ที่ดี การวัดตามยูทิลิตี้ขึ้นอยู่กับความชอบของบุคคลหรือกลุ่มสำหรับสถานะใดรัฐหนึ่ง และโดยทั่วไปจะยึดไว้ระหว่าง 0 (ตาย) ถึง 1 (สุขภาพที่เหมาะสมที่สุด) การศึกษาบางชิ้นสนับสนุนการใช้สิ่งของชิ้นเดียว (เช่น ความพึงพอใจในชีวิตทั่วโลก) เพื่อวัดความผาสุกอย่างพอประมาณ นักจิตวิทยาใช้รายงานจากเพื่อน วิธีการสังเกต วิธีการทางสรีรวิทยา วิธีการสุ่มตัวอย่างจากประสบการณ์ การประเมินชั่วขณะของระบบนิเวศ และวิธีการอื่นๆ เพื่อวัดความผาสุกในด้านต่างๆ
Credit Link: Well-Being Concepts